หลักการทำ SEO ในคีย์เวิดร์ที่มีการแข่งขันสูง เว็บเล็กก็สามารถสู้กับเว็บใหญ่ได้
การทำ SEO ในขั้นตอนหนึ่งที่จะต้องมีการทำทุกครั้งเพื่อให้เว็บติดอันดับซึ่งนั้นก็คือ การหาคีย์เวิดที่ต้องการทำอันดับ สิ่งที่ต้องทำอยู่ทุกครั้งเลยนั้นก็คือ การหาคีย์เวิร์ดที่ต้องทำให้การติดอันดับนั้นเองค่ะ
ซึ่งการทำคีย์เวิร์ดยอดฮิตที่มีคนทำ SEO นั้นอยากจะทำอันดับนั้นก็คือ High Commercial Intent Keyword เพราะจะเป็นคำที่ใช้โดยคนที่ต้องการหาสินค้าอยู่แล้ว จึงมีโอกาสสูงมากที่ผู้เข้ามาชมเว็บไซต์จะต้องมีการจ่ายเงินการซื้อสินค้า หรือ บริการจากทางเว็บไซต์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่สำหรับสินค้าบางชนิด และเว็บไซต์ที่อยู่ในผลการค้นหาของหน้า 1 คีย์เวิดดังกล่าวเลย นั่นก็คือ อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ อาทิเช่น Priceza , Lazada และ Shopee รวมถึงอื่น ๆ เป็นต้น จึงทำให้คีย์เวิรด์เหล่านั้นมีการแข่งขันสูงมากและยากต่อการทำอันดับนั้นเองค่ะ และคำถามนั่นก็คือ หากคุณเป็นเว็บไซต์ขายของ ซึ่งไม่ได้มีทุนมหาศาลแบบคู่แข่งคนอื่น ๆ จะมีวิธีการทำ SEO ไปสู้กับคนอื่นได้อย่างไร ?
ในบทความนี้ จะมีการแชร์เทคนิคการทำ SEO ในการใช้คีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาเพื่อผลลัพธ์ของการทำ SEO ของคุณได้แบบ 100%
รายละเอียดเนื้อหา
หลักการทำ SEO ในคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันที่สูง
หลักการที่ใช้ในการทำ SEO เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณนั้นมีความแตกต่างและจะดีกว่าคู่แข่ง หรือ จะพูดอีกแบบว่า คู่แข่งนั้นมีจุดอ่อนไหวง่ายซึ่งเราทำตรงนั้นให้ดีกว่า หรือ คุณอาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่า เว็บไซต์ของ Shopee กับ Lazada นั้นมีจุดอ่อนอย่างไร ?
คำตอบก็คือ : ส่วนตัวคุณอาจจะคิดว่า ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์แบบได้แบบ 100% เพราะว่าเว็บไซต์ส่วนใหญ่นั้นถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งในเรื่องของการทำ SEO ด้วยคีย์เวิร์ดที่เป็นคำหลัก แต่มักจะไม่มีการโฟกัส Niche Longtail Keyword แต่อย่างมีขั้นตอนอย่างไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
- ต้องเลือกคีย์เวิร์ดให้เป็น
ขั้นตอนนี้เป็น สิ่งแรกที่ทุกคนจะต้องทำนั้นก็คือ การเน้นทำอันดับในคีย์เวิร์ดที่เป็น Niche Longtail Keyword เพราะวิธีการเหล่านี้จะหมายถึงแบบเฉพาะเจาะจง ที่มีคำย่อยที่มีการขยายคำหลัก ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ขายชุดหุ้ม รถยนต์ จะมีคำหลักซึ่งนั่นก็คือ “ชุดคลุมเบาะรถยนต์” หรือ “ชุดหุ้มเบาะรถยนต์” เป็นต้น โดยจะมีคำที่เป็นตัว Niche Longtail Keyword นั่นก็คือ
- ผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ ลายการ์ตูน ราคาถูก
- ชุดคลุมเบาะรถยนต์ แมนยู
และข้อดีของการเน้นคำ ที่ทำให้อันดับใน Niche Longtail Keyword มีอยู่ 2 ข้อหลัก ๆ เลยนั้นก็คือ
- ปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีความเกี่ยวข้อง “จะง่ายกว่า”
เพราะโดยปกติแล้ว E-commerce ยักษ์ใหญ่ จะมีการมุ่นเน้นในเรื่องของการทำอันดับ แต่ก็ไม่ได้ทำอันดับแบบเจาะจงในตัว Niche Longtail Keyword นั่นเองค่ะ เพราะว่าบางคำ ถ้าหากมีการปรับแต่งขึ้นมา เว็บไซต์ให้เน้นเฉพาะตัว Niche Longtail Keyword ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็คือ Google จะมองว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นดีกว่าในแง่ ความเกี่ยวข้อง กับสิ่งที่มีผู้ค้นหาตามที่ต้องการ
- มีลักษณะเป็น High Commercial Intent
เพราะเนื่องจาก High Commercial Intent จะเป็นคำวลีที่มีความหมาย แบบเจาะจง ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่มีนัยยะเลยนั้นก็คือ จะมีการถูกใช้โดยผู้คนที่ให้ความสนใจในสื่อนี้อยู่แล้ว จึงเป็นตัวคีย์เวิรด์ที่มีการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้าได้อย่างง่ายดาย
- 1 เว็บเพจ แต่หลากหลายคีย์เวิร์ด
เรื่องต่อมาที่อยากแนะนำให้ทุกคนเข้าใจเลยนั่นก็คือ ปรับแต่งให้หนึ่งเว็บเพจให้ปรากฎขึ้นในการค้นหาของหลากหลายคีย์เวิร์ด ยกตัวอย่างเช่น จะต้องมีการทำอันดับ 3 Keyword ซึ่งนั้นก็คือ Keyword A หรือ B หรือ C ซึ่งสิ่งที่ทำลงไปนั้น ก็คือ การปรับแต่งให้มีการค้นหาตัวคีย์เวิร์ด A B หรือ C ซึ่งคนจะพบเห็นเว็บเพจรูปแบบเดียวกัน ปรากฏขึ้นในผลกาค้นหาของ Google
คำถามก็คือ ทำไมจะต้องทำแบบนั้นด้วยละ
คำตอบ : ที่จะต้องทำแบบนั้นก็เป็นเพราะว่า เราต้องมีความพยามที่จะต้องเพิ่มจำนวนปริมาณให้มีคนเข้ามาชมเว็บเพจ ให้มากที่สุด เพราะปริมาณคนที่เข้าชมเว็บไซต์นั้น ก็เป็นหนึ่งปัจจัยในการที่ google จะใช้การตัดสินว่าเว็บเพจนั้นจำเป็นต้องการของผู้ค้นหาข้อมูลหรือไม่เพื่อให้คุณเข้าใจได้มากขึ้นกว่าเดิม ขอยกตัวอย่างหนึ่งตัวนะคะ การทำ SEO ของทั้ง 2 เว็บไซต์นั้นจะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีทั้ง 2 เว็บไซต์ที่ต้องการให้อันดับใน 3 Keywordที่เหมือนกันนั้นเองค่ะ
- การทำ User Signal ให้ดี
User Signal คือ ค่าที่มีการสะท้อนในเรื่องของประสบการณ์ของผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์จะทั้งหมด 3 ค่า ดังนี้
- Time On Site คือ เวลาของคนที่เข้ามาใช้งานเว็บเพจ
- Bounce Rate คือ สัดส่วนคนที่เข้ามายังหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บ เพียงแค่หน้าเดียวเท่านั้น!! และไม่คลิกไปหน้าไหนต่อเลยค่ะ **ยิ่งน้อยยิ่งดี***
- Click Through Rate (CTR) คือ อัตราจำนวนการคลิกผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
เพราะฉะนั้น หากทำเว็บไซต์ขึ้นมาคุณจะต้องมีทั้ง 3 ข้อข้างต้นนี้ด้วย ยิ่งมียิ่งดี และยิ่งได้รับโอกาสที่จะขึ้นมาอยู่ที่หน้า 1 ยิ่งมาก เพราะตัว Google จะมองว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นมีการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ มันจะสะท้อนให้เห็นค่ะว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน
จุดอ่อนหนึ่งอย่างของ E-commerce ยักษ์ใหญ่ คือ 99% นั้นก็คือ
เว็บเพจผู้ที่ทำการขายสินค้า จะมีลักษณะเป็น Template ซึ่งนั้นก็คือ จะมีโครงสร้างเนื้อหาที่จะไม่เหมือนกัน และจะไม่มีการปรับแต่งไปอย่างเป็นอิสระ ซึ่งจุดนี้เป็นข้อที่ได้เปรียบ เพราะคุณนั้นสามารถใส่รายละเอียด และ รูปแบบการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์เพจได้แบบเต็มที่ เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้ที่เข้ามารับชมให้มากกว่าคู่แข่งคนอื่น ๆ ซึ่งจะมีเทคนิคการเพิ่ม User Signal ที่แนะนำ ได้แก่
- การเขียนหัวข้อที่มีความน่าสนใจ หรือ ดึงดูดชวนให้คลิก
- พยายามเขียนหัวข้อของเว็บเพจให้มีการโน้มนาว ความน่าสนใจ และมีการดึงดูดการคลิกเข้ารับชม เพื่อทำให้ค่าของ CTR สูงขึ้น
- วิธีการเขียนหัวข้อที่ดีนั้น เราขอบอกก่อนเลยนะคะว่าหัวที่จะบอกนั้นผู้อ่านกำลังจะได้อ่านเรื่องอะไร และให้คุณค่าอะไรบ้างแก่ผู้ที่เข้ามาอ่าน เพราะถ้าหากรู้แล้วว่าอ่านแล้วมีประโยชน์ คนมักจะสนใจคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์นั้น ๆ นั่นเองค่ะ
- การสร้าง Quality Backlink
Quality Backlink คือสิ่งที่ได้รับมาจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ และ มีคุณภาพที่สูง
ซึ่งจากการเก็บข้อมูลมาเป็นแรมปี เราได้พบว่า Quality Backlink อ่านต่อ Backlink คืออะไร ? เป็นสิ่งที่มีผลต่ออันดับซึ่งจะมรนัยที่สำคัญ หากเว็บไซต์ของคุณได้รับ Quality Backlink แบบต่อเนื่อง อันดับผลในการค้นหาก็จะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดนนั้นเองค่ะ โดยจะมีหลักการสร้าง Quality Backlink ซึ่งจะมี 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
- คุณภาพต้องมาก่อนปริมาณ
เพราะเนื่องจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่นั้นจะมีการใช้ Backlink จำนวนเยอะมาก ซึ่งคุณไม่ควรแข่งขันในเรื่องของปริมาณ เพราะคุณอาจจะแพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้วค่ะ แต่คุณควรเน้นในเรื่องของคุณภาพมากกว่า
- เลือกเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้อง (Relevance)
ควรมีการติดตั้ง Backlink จากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งที่มีเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ของคุณนั้นมีการชายชุดคลุมเบาะรถยนต์ หากมีการได้รับ Backlink จากเว็บไซต์เกี่ยวกับรถยนต์ หรือ เครื่องประดับรถยนต์ ซึ่งแบบนี้จะถือว่ามีความเกี่ยวข้องร่วมด้วย และส่วนข้อดีของมัน ก็คือ การสร้างลิ้งค์ในการทำเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องนั้น จะมีโอกาสสูงมากที่คนส่วนมากคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์แบบเป็นธรรมชาติเพราะเว็บไซต์ของคุณนั้นมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ชมเข้าต้องการ ซึ่งแบบนี้จะเป็นการเก็บข้อมูลที่มีการพบว่า Backlink ที่ได้รับการคลิกเข้ามาแบบเป็นธรรมชาตินั้นจะดีมากที่สุด และนี่ก็คือทีเด็ดเลยค่ะ เพราะจะเป็นการส่งผลที่ดีต่ออันดับเป็นอย่างมาก
- เลือกเว็บไซต์ที่ดี และมีความน่าเชื่อถือที่สูง “High Authority”
Authority คือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ยิ่งถ้าหากมี Backlink จากเว็บไซต์ที่ได้คุณภาพนั้นก็จะมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก เพราะโอกาสที่เว็บไซต์คุณจะขึ้นสู่เข้าหน้า 1 จะยิ่งมากกว่าเท่านั้น